Software Open Source

ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ (Microsoft Windows)

ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ (Microsoft Windows) เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง (Operation System) ที่ใช้ในจัดการฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์บนคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการนี้พัฒนาขึ้น จัดจำหน่าย และเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทไมโครซอฟท์ (Microsoft) และเป็นระบบปฏิบัติการเดสก์ท็อปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยครองมาร์เก็ตแชร์สูงถึง 70% ของตลาดผู้ใช้คอมพิวเตอร์พีซีทั้งหมด (จากสถิติของ StatCounter เมื่อเดือนมีนาคม ปีค.ศ. 2023) และอยู่คู่วงการคอมพิวเตอร์พีซีมานานกว่า 37 ปี ทั้งยังรองรับภาษาต่างๆ ครอบคลุมถึง 110 ภาษาทั้งบนคีย์บอร์ดและบนอินเทอร์เฟซ

ความเป็นมา

จุดเริ่มต้นของไมโครซอฟท์ วินโดวส์มาจากโปรแกรมที่ชื่อว่า Interface Manager ที่ไมโครซอฟท์เริ่มพัฒนาขึ้นเมื่อปี 1981 และเปิดตัวในปี 1983 ภายใต้ชื่อ “วินโดวส์” (Windows) ซึ่งเปิดตัวหลังจากคอมพิวเตอร์พีซีเครื่องแรกของแอปเปิล (Apple) อย่างลิซ่า (Lisa) แต่ก็ยังมาก่อนระบบปฏิบัติการแมคอินทอช (Macintosh)

วินโดวส์ในยุคแรกเริ่มเป็นเหมือนแค่เปลือก (Shell) หรือโปรแกรมอินเทอร์เฟซของ DOS ที่แสดงกราฟิกได้ และเป็นเครื่องมือในการจัดการไฟล์เท่านั้น แต่ในระบบปฏิบัติการเองก็ยังมีฟังก์ชั่นต่างๆ ไดร์ฟเวอร์อุปกรณ์ และรูปแบบไฟล์ปฏิบัติการเป็นของตัวเอง ทำให้รันแอพพลิเคชันกราฟิกได้หลายตัวพร้อมกันผ่านการทำงานร่วมกันแบบมัลติทาสก์ รวมถึงมีการปรับโครงสร้างหน่วยความจำเสมือน (Virtual Memory) ทำให้สามารถรันโปรแกรมที่ใหญ่กว่าความจุที่มีอยู่ได้

ระบบ GUI

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Windows แตกต่างจาก MS-DOS คือ Windows เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้งานง่ายและมีอินเตอร์เฟซกราฟิกบริบท โดยมีระบบหน้าต่าง (GUI – Graphical User Interface) ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้และจัดการไฟล์และโปรแกรมได้อย่างสะดวกดยที่ผู้ใช้ที่ไม่จำเป็นต้องมีความรู้หรือเชี่ยวชาญการใช้คอมพิวเตอร์มากนัก โดยระบบปฏิบัติการและโปรแกรมต่างๆ จะแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอและอินเตอร์เฟซที่ใช้หน้าต่าง ไอคอน และเมนู ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถออกคำสั่ง โต้ตอบกับคอมพิวเตอร์ได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ Windows ยังรองรับการใช้งานโปรแกรมและแอปพลิเคชันหลากหลายรูปแบบและสามารถรันหลายหน้าต่างไปพร้อมกันแบบมัลติทาสก์ เป็นการพัฒนาขึ้นอีกขั้นจาก MS-DOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้ข้อความในการออกคำสั่งหรือเขียนสคริปต์เท่านั้น (Command Line Interface: CLI)
และจะทำงานให้เสร็จไปทีละ Task ไม่สามารถรันหลายคำสั่งไปพร้อมกันได้

เวอร์ชั่นต่างๆ

วินโดวส์มีการพัฒนา ปรับปรุง และอัปเดตเวอร์ชั่นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีค.ศ. 1985 จวบจนถึงปัจจุบัน โดยเวอร์ชั่นที่มีจุดเด่นหรือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญมีดังนี้
Windows 1.0: ใช้อินเทอร์เฟซ์แบบเรียงหน้าต่างประกอบกันเป็นช่อง (Tiles) ไม่มีการซ้อนทับกัน
Windows 2.0: มีการพัฒนาทั้งยูสเซอร์อินเทอร์เฟซและการจัดการหน่วยความจำ มีการเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลให้มีหน้าต่างเป็นแบบซ้อนทับกันใน Windows 2.03 และมีการใช้งานปุ่มคีย์ลัดที่ทำงานได้ซับซ้อนขึ้นจากการเพิ่มหน่วยความจำเสริม
Windows 3.1: เป็นเวอร์ชั่นแรกที่มีอินเตอร์เฟซกราฟิกที่ใช้งานง่าย มีการรองรับแอปพลิเคชันกราฟิกและเกมมากขึ้น
Windows 95: มีเมนู “Start” และอินเตอร์เฟซแบบหน้าต่างที่ดูดีขึ้น มีการเสนอ Internet Explorer เป็นค่าเริ่มต้น
Windows 98: มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและรองรับ USB และ DVD เป็นครั้งแรก
Windows 2000: เป็นระบบปฏิบัติการแบบโซ่ธีมเบรคที่มีความเสถียรและแม่นยำสูงสุด
Windows XP: มีอินเตอร์เฟซแบบกราฟิกที่เรียบง่ายและสมบูรณ์ มีความนิยมมากในกลุ่มผู้ใช้
Windows Vista: มีการปรับปรุงและขนาดระบบที่ใหญ่ขึ้น รวมถึงการเสนอ Aero Glass ที่ดูสวยงาม
Windows 7: เป็นระบบปฏิบัติการที่สมบูรณ์และเสถียร มีความเร็วในการเรียกใช้และเมนูเริ่มต้นที่ดี
Windows 8: มีอินเตอร์เฟซ Metro UI ที่ใช้สำหรับอุปกรณ์ทัชสกรีนและคอมพิวเตอร์และมีการเสนอบริการคลาวด์ในระบบปฏิบัติการ
Windows 10: มีการรวมอินเตอร์เฟซที่สามารถใช้งานกับอุปกรณ์ทั้งแท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์ได้ มีระบบความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและการอัปเดตตลอดเวลา
Windows 11: มีอินเตอร์เฟซใหม่ที่ออกแบบให้ดูสดใสและมีฟีเจอร์พิเศษเช่น Snap Layouts และ Widgets สำหรับข้อมูลและข่าวสาร
Windows Server: เวอร์ชันของ Windows ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการจัดการเครือข่ายและศูนย์ข้อมูล มีความเสถียรและความปลอดภัยสูง
Windows 10X (ถูกยกเลิก): เป็นเวอร์ชันที่ออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์แบบแท็บเล็ตและอุปกรณ์พกพา มีอินเตอร์เฟซที่เรียบง่าย

ไลน์ผลิตภัณฑ์

วินโดวส์เป็นระบบปฏิบัติการที่นิยมใช้งานอย่างกว้างขวางทั้งในสถานที่ทำงานและที่บ้าน และมีบทบาทสำคัญในการให้บริการแก่องค์กรและบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ รวมถึงการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและคลาวด์ (cloud) เพื่อให้บริการแอปพลิเคชันและบริการออนไลน์ต่าง ๆ แก่ผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการแบ่งออกเป็นไลน์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในแต่ละเซกเตอร์ของอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ เช่น Windows NT สำหรับการใช้งานส่วนบุคคล Windows Server ให้บริการเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ และ Windows IoT เป็นระบบปฏิบัติการที่ฝังอยู่ในอุปกรณ์ IoT ต่างๆ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าไมโครซอฟท์ วินโดวส์จะเป็นระบบปฏิบัติการยักษ์ใหญ่ที่รองรับการใช้งานอย่างหลากหลาย แต่ด้วยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้ใช้งาน ทำให้ความนิยมในการใช้คอมพิวเตอร์ลดน้อยลง เมื่อนับรวมมาร์เก็ตแชร์กับอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือโทรศัพท์มือถือแล้ว ระบบปฏิบัติการแอนดรอย (Android) จึงเป็นระบบปฏิบัติการที่กำลังเฟื่องฟูและเป็นที่นิยมมากกว่าในปัจจุบัน